โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ (Aortic Stenosis,AS)
โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ เป็นภาวะที่สำคัญทางการแพทย์ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบหมุนเวียนเลือดในร่างกาย เนื่องจากการตีบของลิ้นหัวใจเอออร์ติก (Aortic Valve) ระหว่างหัวใจห้องล่างซ้ายและหลอดเลือดแดงใหญ่ (Aorta) ทำให้การไหลของเลือดออกจากหัวใจไปทั่วร่างกายลดลงและหัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดผ่านลิ้นที่ตีบแคบ
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
1. ภาวะเสื่อมของลิ้นหัวใจ (Degenerative Calcification) : พบมากในผู้สูงอายุที่ลิ้นหัวใจเกิดการสะสมแคลเซียม ทำให้ลิ้นแข็งและตีบ
2. โรคของลิ้นหัวใจตั้งแต่เกิด (Congenital Heart Disease) : เช่น ลิ้นหัวใจเอออร์ติกสองแฉกแทนที่สามแฉก อาจทำให้เกิดการตีบได้เร็วกว่าปกติ
3. การติดเชื้อและการอักเสบ (Rheumatic Fever) : การติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ในอดีตอาจทำให้ลิ้นหัวใจตีบในระยะยาว
4. ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ : ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง สูบบุหรี่ และเบาหวาน
อาการ
– เหนื่อยง่าย หายใจเหนื่อยง่าย โดยเฉพาะเวลาออกกำลังกาย
– เจ็บหน้าอก รู้สึกเหมือนถูกกดทับหรือบีบแน่นที่หน้าอก
– เวียนศีรษะหรือเป็นลม อาจเกิดในขณะออกแรง หรือยืนนาน ๆ
– หัวใจเต้นผิดจังหวะ รู้สึกใจสั่น หรืออัตราการเต้นหัวใจผิดปกติ
การวินิจฉัย
– การตรวจร่างกาย แพทย์อาจได้ยินเสียงหัวใจผิดปกติ (Heart Murmur) จากการฟังเสียงหัวใจ
– การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) เพื่อตรวจหาความผิดปกติของหัวใจ
– การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (Echocardiogram) ช่วยแสดงภาพของหัวใจและลิ้นหัวใจเพื่อตรวจหาการตีบ
– การตรวจเอกซเรย์หรือซีทีสแกน เพื่อตรวจสอบขนาด และรูปร่างของหัวใจและหลอดเลือด
การรักษา
– การรักษาด้วยยา เพื่อลดภาระงานของหัวใจ และควบคุมอาการ เช่น ยาลดความดันโลหิต หรือยาขับน้ำ
– การผ่าตัดเปิดลิ้นหัวใจ (Valve Replacement) เมื่ออาการรุนแรง แพทย์อาจแนะนำ การผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนลิ้นหัวใจที่ตีบ
– การถ่างลิ้นหัวใจ ด้วยบอลลูน (Balloon Valvuloplasty) ใช้ในบางกรณีเพื่อขยายลิ้นหัวใจชั่วคราว
การป้องกันและการดูแลตนเอง
– การควบคุมปัจจัยเสี่ยง เช่น ควบคุมความดันโลหิต ดูแลระดับไขมันในเลือด และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
– การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดอาการเหนื่อยหรือเจ็บหน้าอก
– การตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อเฝ้าระวังและตรวจหาโรคในระยะแรกเริ่ม
การดูแลและรักษาโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบอย่างเหมาะสมสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของหัวใจและลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ หากคุณหรือบุคคลใกล้ชิดมีอาการคล้ายคลึงกับที่กล่าวมาควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการประเมินและจัดการอย่างเหมาะสม
ธนรัฎ เฮลท์แคร์ | ดูแลผู้ป่วยติดเตียง เชียงใหม่
สนับสนุนการดูแลอย่างถูกต้อง และ ถูกวิธี โดย ศูนย์ดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ ธนรัฎ เฮลท์แคร์ เชียงใหม่
https://www.facebook.com/thanarat.healthcare?mibextid=LQQJ4d